ทำไมนักการตลาดและเจ้าของธุรกิจกว่า 5,000 คนจึงเลือกใช้เรา
เรารวบรวมปัญหาที่นักสร้างคอนเทนต์เจอบ่อยที่สุด และแก้ไขทั้งหมดด้วยเทคโนโลยี AI ชั้นนำ
คิดงานไม่ออกและไม่มีเวลา
เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งบริหารร้าน ตอบลูกค้า และทำการตลาด มักไม่มีเวลาสร้างคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอ
ค่าใช้จ่ายในการสร้างคอนเทนต์สูงเกินไป
นักการตลาดที่ได้รับงบประมาณจำกัด ต้องจ่ายค่าจ้างนักเขียน 2,000-5,000 บาท และค่าจ้างกราฟิกดีไซน์เนอร์ 1,500-3,000 บาทต่องานหนึ่งชิ้น
คอนเทนต์ดูจืดชืด ไม่น่าสนใจ
บล็อกเกอร์เขียนบทความเนื้อหาดี แต่หาภาพประกอบสวยและถูกลิขสิทธิ์ได้ยาก ทำให้บทความดูน่าเบื่อ ไม่ดึงดูดให้คนแชร์
อุปสรรคด้านภาษาในการขยายตลาดไปต่างประเทศ
เจ้าของสินค้า OTOP ต้องการขายสินค้าบน Amazon หรือ eBay แต่ติดปัญหาเรื่องการแปลคำบรรยายสินค้าเป็นภาษาต่างประเทศ
การหาข้อมูลใช้เวลานานและข้อมูลกระจัดกระจาย
นักวิเคราะห์การตลาดต้องเปิดเว็บไซต์รีวิวเป็นสิบๆ เว็บ เพื่อรวบรวมข้อมูลและความคิดเห็น ซึ่งใช้เวลานานและอาจมีข้อมูลตกหล่น
ความรู้และสไตล์ของแบรนด์หายไปพร้อมกับคน
บริษัทมีทีมการตลาดที่สร้างคอนเทนต์ได้ดี แต่เมื่อพนักงานคนสำคัญลาออก คนใหม่ก็ไม่สามารถเขียนงานให้มีน้ำเสียง (Brand Voice) เหมือนเดิมได้
คอนเทนต์กระจัดกระจาย หายาก นำกลับมาใช้ใหม่ไม่ได้
ทีมการตลาดสร้างคอนเทนต์หลายร้อยชิ้น แต่ไฟล์กระจัดกระจายใน Google Drive, คอมพิวเตอร์แต่ละคน และอีเมล เมื่อต้องการใช้งานกลับหาไม่เจอ
การทดลองแคมเปญใหม่มีความเสี่ยงและต้นทุนสูง
ผู้จัดการฝ่ายการตลาดมีไอเดียเจาะตลาดกลุ่มวัยรุ่น แต่ไม่แน่ใจว่าจะได้ผล การทุ่มงบประมาณเพื่อสร้างคอนเทนต์ทดลองมีความเสี่ยง
ช่องว่างระหว่างการสร้างเนื้อหากับการนำไปใช้งานจริง
หลังจากเขียนบทความและออกแบบภาพเสร็จ ยังต้องก็อปปี้ไปวางในระบบหลังบ้าน จัดรูปแบบใหม่ อัปโหลดรูป และตั้งค่า SEO ซึ่งใช้เวลามาก
คอนเทนต์ที่เผยแพร่ไปแล้ว แก้ไขปรับปรุงได้ยาก
บทความรีวิวสินค้าที่เผยแพร่ไปแล้ว เมื่อสินค้ามีการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ การกลับไปแก้ไขอาจทำได้ยาก และอาจทำให้เวอร์ชันเดิมหายไป