ภาพรวมผลประกอบการ KTC ไตรมาส 1 ปี 2567
บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC รายงานผลประกอบการที่น่าประทับใจในไตรมาสแรกของปี 2567 โดยมีกำไรสุทธิ 1,861 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตนี้มาจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินและผลขาดทุนด้านเครดิตที่ลดลง ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการบริหารความเสี่ยงที่แข็งแกร่งของบริษัท
กำไรสุทธิ
1,861 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3% YoY)
รายได้ดอกเบี้ย
เติบโตจากการบริหารจัดการสินเชื่อ
ค่าใช้จ่ายผลขาดทุน
ลดลง สะท้อนคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี
มุมมองจากนักวิเคราะห์และการคาดการณ์
นักวิเคราะห์จากบล.กรุงศรี ยังคงแนะนำ "ซื้อ" หุ้น KTC โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 55 บาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับปรุงคุณภาพของสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เอื้ออำนวย ซึ่งส่งผลดีต่อต้นทุนทางการเงินของบริษัท นอกจากนี้ การบริหารจัดการพอร์ตสินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพยังคงเป็นจุดแข็งสำคัญที่นักวิเคราะห์จับตามอง

ปัจจัยบวกสำคัญ
- คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น
- แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเป็นบวก
- การบริหารต้นทุนที่ยอดเยี่ยม
- การเติบโตของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย
ผลกระทบจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
KTC คาดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทในปี 2567 เติบโตขึ้นประมาณ 8% การบริโภคที่ฟื้นตัวและการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการกระตุ้นเศรษฐกิจเหล่านี้ จะเป็นแรงส่งสำคัญต่อปริมาณธุรกรรมและการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของ KTC
การบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์และต้นทุน
บริษัทได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอัตราส่วน NPLs ในไตรมาส 1 ปี 2567 อยู่ที่ 1.97% ซึ่งถือว่าทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงการควบคุมความเสี่ยงด้านเครดิตที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ การบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินที่ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตลดลง ซึ่งเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
อัตราส่วน NPLs
1.97% (ทรงตัว)
การบริหารต้นทุน
ลดลง ส่งผลดีต่อกำไร
กลยุทธ์การเติบโตและเป้าหมายในอนาคต
KTC ยังคงมุ่งมั่นขยายฐานลูกค้าและเพิ่มการใช้จ่ายผ่านบัตรอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มร้านอาหารและภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นภาคส่วนที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง กลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยผลักดันการเติบโตของรายได้และส่วนแบ่งการตลาดในระยะยาว
กลยุทธ์หลัก
- เน้นกลุ่มร้านอาหาร
- เจาะตลาดภาคการท่องเที่ยว
- ขยายฐานลูกค้าใหม่
- เพิ่มปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตร
ผลการดำเนินงานของหุ้น KTC ในตลาด
ราคาหุ้น KTC แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและทนทานต่อสภาวะตลาด โดยนักวิเคราะห์ได้ตั้งข้อสังเกตว่าหุ้น KTC มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูงและการบริหารจัดการพอร์ตสินเชื่อที่มีคุณภาพ
แนวโน้มผลประกอบการปี 2567
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิของ KTC ในปี 2567 จะแตะระดับ 8,118 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 8% จากปีก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสภาวะเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวย มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการดำเนินกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน